ปล่อยให้ยูนิตอื่นมาไทยกันฉ่ำๆ แล้วก็ถึงที SUPER JUNIOR-L.S.S. ที่ประกอบด้วย 3 หนุ่มแห่ง Super Juniorได้แก่ อีทึก, ชินดง และ ชีวอน แลนดิ้งประเทศไทยเพื่อเสิร์ฟความสนุกให้เอลฟ์ในคอนเสิร์ต SUPER JUNIOR-L.S.S. THE SHOW : Th3ee Guys in BANGKOK เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ 2 ยูเนี่ยน มอลล์

โดยก่อนเริ่มการแสดง SM True จัดงานแถลงข่าวให้ SUPER JUNIOR-L.S.S. ได้พบปะพูดคุยกับพี่ๆ และน้องๆ สื่อ ที่ทั้ง 3 สมาชิกก็ได้ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง พูดถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเยือนประเทศไทยพร้อมคอนเสิร์ตแรกในฐานะยูนิตใหม่ล่าสุดของวง รวมทั้งฝากฝังแนะนำตัวในฐานะยูนิตน้องใหม่ ที่งานนี้ทั้งสามมาแบบขำขันล้อเลียนอายุวงและอายุตัวเองแบบทำเอาสื่อหัวเราะกันคิกคักตลอดทั้งงานแถลงข่าว ตั้งแต่การแนะนำตัวว่า “เป็นวงน้องใหม่แต่ประสบการณ์ 19 ปี” จุดเริ่มต้นของยูนิตนี้ที่สามคนตอบไปกันคนละอย่าง จนเอ็มซีดีเจนุ้ยต้องย้ำว่าตกลงจะให้สื่อเขียนว่ายังไงครับ 555555 สรุปตามที่พี่ชิ้น-ชินดงบอกก็คือยูนิตนี้เกิดจากความคิดของอีทึกที่อยากทำเพลงในแบบที่ชอบ ตอนแรกมีกันสองคน แต่ยังไม่ดีพอ จนได้ชินดงเข้ามาร่วมจึงทำให้ยูนิตนี้ดีมาก 55555555 ไปจนถึงหวังว่าจะโด่งดังตามรอยรุ่นพี่อย่าง K.R.Y และ D&E แถมยังมีฟีลโชว์รวยของคุณชายซีวอนที่ตอบคำถามว่าคิดถึงอะไรในเมืองไทยว่า “โรงแรมดุสิตธานี” ดีเจนุ้ยเลยชงว่า “คุณจะซื้อเหรอครับ” โดยมีพี่ชิ้นเชียร์ว่า “ซื้อเลยๆๆๆ” ส่วนเจ้าตัวตอบนุ่มๆ ว่า “เขาขายอยู่เหรอครับ” เอ๊ออออออออ ความรวยนี้ หรือที่อีทึกตอบว่า “นึกถึงพัทยากับผัดไทย” พร้อมอธิบายว่าเพราะภาษาเกาหลีคำว่าพัทยากับผัดไทยออกเสียงคล้ายๆ กัน ซึ่งดีเจจนุ้ยก็แซวว่าแต่สำหรับคนไทยคือไกลกันมาก แต่ไม่เป็นไร อีทึกว่าใกล้ก็คือใกล้ พี่ชิ้นเลยบอกลีดเดอร์ว่า “เนี่ย ขอโทษเขาเลย” อีทึกเลย “ขอโทษค้าบบบ” เป็นบรรยากาศงานแถลงข่าวที่สนุกสนานและขำขัน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะไม่เกินจริง SJ ก็คือ SJ อ่ะนะ มากี่รอบก็ขำทุกรอบ… แต่รอบนี้ขำกว่าเดิม ยืนยัน!

แล้วก็ถึงเวลาที่รอคอยกับคอนเสิร์ตที่มาในคอนเซ็ปต์ THE SHOW สื่อถึง ‘โชว์ของผู้ที่แสดงได้ดีที่สุด’ ซึ่ง SUPER JUNIOR-L.S.S. ก็ทำได้ตามคอนเซ็ปต์เป๊ะๆ เพราะต้องยอมรับเลยว่าเป็นยูนิตที่มากับทักษะทั้งการเอนเตอร์เทนคนดูและเอกลักษณ์เฉพาะตัว สมกับที่ก่อนนี้ซีวอนบอกไว้ว่าทั้งอีทึกและชินดงมีทักษะเรื่องการพูดและเอนเตอร์เทน รับรองว่าทุกคนจะได้สนุกไปกับการพูดคุยของพวกเขา อันนี้ก็ต้องบอกว่าจริงอีก เพราะคุยกันอยู่ 2-3 ช่วงก็คือให้เรียกว่ามาเล่นตลกดีกว่า โดยเฉพาะตลกเรื่องอายุและสังขารที่ไม่ต้องรอให้ใครแซว อีทึกและน้องๆ แซวตัวเองไปเรียบร้อย เริ่มจากการแนะนำตัว “สวัสดี เราชินดง คนที่ตัวใหญ่ที่สุดใน LSS” (พี่ชิ้นบอกว่าคิดเองเลยนะ) “สวัสดี เราซีวอน น้องเล็กคนเดียวที่ยังอายุ 30” 555555 และ “สวัสดี เราอีทึก ลีดเดอร์ LSS อายุ 40” พอเอลฟ์ขำกันคิกคักๆๆๆๆ อีทึกก็ (แกล้งทำเป็น) โวยวายว่า “หัวเราะขำผมเหรอ ทุกคนจะไม่อายุ 40 กันหรือไง” โอ้ยยยยยย ขำมากกกกก ไหนจะที่อีทึกเล่าว่ามาไทยก่อนเพื่อนวันนึงเพราะมาตีกอล์ฟ แล้วก็ไปกินอาหารอิตาลีที่อร่อยมากเลยพูดขอบคุณภาษาอิตาเลี่ยนกับเชฟไป ปรากฎเชฟตอบกลับมาว่า “อาริกาโตะโกไซมัส” เขียนเล่าแบบนี้อาจจะไม่เห็นภาพ แต่ในบรรยากาศจริงคือตลกแบบถ้าเป็นตลกคาเฟ่ไทยช็อทนี้คือต้องเอาถาดตีหัวกันอ่ะ 555555

แล้วนอกจากความช่างพูดช่างคุยแบบแสนจะตลก เรื่องการเพอร์ฟอร์มก็มาเต็มอยู่ เพราะสามคนขนเพลงของ SUPER JUNIOR-L.S.S. ที่มาในแนวสนุกสนานมาโชว์แบบครบทุกเพลง ตั้งแต่เพลงเปิดตัว Suit Up ที่ปลุกเอลฟ์ให้พร้อมลุยไปด้วยกันทุกที่ทุกเวลา ต่อด้วยเพลงเรียกกำลังใจที่แต่งโดยอีทึกอย่าง C’MON (질러) เพลงที่มากับความหมายเชิงบวก 조크든요 (JOKE) ไปจนถึงเพลงจากมินิอัลบั้มภาษาญี่ปุ่น Let’s Standing Show ที่ทั้งสามนำมาร้องในเวอร์ชันภาษาเกาหลี ได้แก่ 샷다 닫아라 (Shut Down), NEW ROAD, CEREMONYและOld Skool

กับอีกช่วงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือการนำเพลงฮิตเพลงชาติของ SUPER JUNIOR มาคัฟเวอร์รวมเป็นเมดเลย์ ทั้งเพลง Twins (Knock Out) และ 쏘리 쏘리 (SORRY, SORRY)รวมถึงเพลงจากยูนิตอื่นๆ ของ SUPER JUNIOR อย่าง 떴다 오빠 (Oppa, Oppa) และ 파자마파티 (Pajama Party) และอีกช่วงที่ทำให้รู้ว่ายูนิตนี้ร้องเพลงได้เพราะมากๆ คือช่วงเพลงบัลลาดทั้ง So I กับ 거울 (Mirror) ของ SUPER JUNIOR และคัฟเวอร์เพลง Love In The Ice ของ TVXQ! ที่เพราะมาก เพราะจริง เพราะแบบ เห้ย วงตลกอย่าง SJ มากันแค่ 3 คนแต่ร้องเพลงเพราะขนาดนี้เลย… อันนี้ไม่ได้บู้บี้พี่ๆ แค่จะบอกว่าปกติ SJ เมมเบอร์เยอะ เลยได้ร้องกันคนละนิดละหน่อย ทำให้เราก็ไม่ค่อยได้โฟกัสกับการร้องของทุกคนมากขนาดนั้น แต่พอเป็นยูนิตย่อย จำนวนเมมเบอร์น้อยลง ไอ้ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น เช่น พี่ชิ้นร้องเพลงเพราะนะเธออออ..งี้ หรือพี่ชิ้นเก่งมากนะ เพราะรับหน้าที่วางแผนและกำกับคลิป VCR ต่างๆ ในคอนนี้ด้วย ซึ่งแม้จะเป็นบอกเล่าเรื่องราวการกำเนิดของยูนิตและการสัมภาษณ์เบื้องหลัง แต่ก็ตล้กกกกกก ไปกวาดเอาเมมเบอร์ SJ มาออกกล้องกันครบทีม พร้อมไดอะล็อกแบบแสนจะเอสเจ คือได้เรื่องได้ราวบ้างไม่ได้บ้าง แต่ได้แน่ๆ คือความขำ ดูคอนไปขำไป หัวเราะจนเจ็บพุง

อ่อ และอีกสิ่งที่ถือเป็นเซอร์ไพรส์คือคอนนี้ทั้งสามคนเดินลงเวทีมาพบปะประชาเอลฟ์อย่างใกล้ชิด เดินเลาะรั้วให้แปะมือแบบไม่มีการหวงเนื้อหวงตัว ซึ่งคุณชายซีวอนแบบโคลสอัพตัวเป็นๆ หล่อออออมาก อีทึกก็สวยสมกับที่ถามเอลฟ์ตั้งแต่ต้นคอนว่า “ผมสวยไหม ผมเซ็กซี่ไหม” 

ช่วงท้าย SUPER JUNIOR-L.S.S. ขอบคุณเอลฟ์ที่อยู่ด้วยกันเสมอมา ผ่านเพลง 우리에게 (The Melody) และบอกรักในเพลง 소원이 있나요 (Sapphire Blue) ก่อนจะปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลงที่มีความหมายอันลึกซึ้งว่าช่วงเวลาที่ได้พบกันคือปาฏิหาริย์ Miracle และยังสื่อว่า SUPER JUNIOR จะมุ่งมั่นสร้างความมหัศจรรย์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งแบบกลุ่ม แบบยูนิต และแบบเดี่ยว ทางด้านเอลฟ์ก็สร้างความประทับใจผ่านการทำโปรเจกต์ชูป้ายที่มีข้อความว่า ‘เป็นแบบนี้ ❤  ตลอดไป’ และ ‘ไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ แต่รักกันตลอดไป’ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคอนที่ทั้ง SUPER JUNIOR-L.S.S. และเอลฟ์ได้เติมเต็มพลังใจให้กันและกันตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที กับ 19 เพลง ด้วยเพอร์ฟอร์มแมนซ์ดีๆ เมนต์สนุกๆ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ต้องใช้คำว่าไม่รู้คนบนเวทีหรือคนข้างล่างที่ยิ้มกว้างงงงงกว่ากัน