Nosferatu ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยความหลงใหลคลั่งไคล้ระหว่างหญิงสาวแสนสวยที่ถูกตามหลอนและแวมไพร์น่าสะพรึงกลัวที่หลงใหลในตัวเธอ นำมาซึ่งความสยดสยองที่ไม่อาจเอ่ยถึงได้ ผลงานของผู้กำกับ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง  4 สาขา ได้แก่ กำกับภาพ  /ออกแบบเครื่องแต่งกาย /แต่งหน้าและออกแบบทรงผม /ออกแบบงานสร้าง อีกทั้งยังรวบรวมทีมนักแสดงระดับแนวหน้า ทั้ง บิล สการ์สการ์ด, นิโคลัส โฮลท์, ลิลลี-โรส เด็ปป์, แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน, เอ็มมา คอร์ริน, ราล์ฟ อิเนสัน, ไซมอน แม็คเบิร์นนีย์ และ วิลเลม เดโฟ

เรื่องราวของเหล่านักแสดง

ลิลลี-โรส เด็ปป์ รับบท เอลเลน ตัวละครหลักที่มีความรู้สึกขัดแย้งและถูกสิงใน Nosferatu เด็ปป์อธิบายถึงแรงดึงดูดที่เธอมีต่อบทภาพยนตร์เรื่องนี้และบทบาทนี้ว่า “ฉันชอบเรื่องราวแนวกอธิคผีสิงแบบนี้เสมอมา ระหว่างที่อ่านบทหนังเรื่องนี้ ฉันมองเห็นมันเป็นภาพขึ้นมาเลย และฉันก็กลั้นหายใจตลอดเวลาด้วยค่ะ”

แม้จะมีองค์ประกอบเรื่องของการสิงสู่และจินตนาการ แต่เธอพบว่าบทภาพยนตร์ของเอ็กเกอร์สดึงเอาความระทึกขวัญที่น่าตกใจส่วนใหญ่มาจากความสมจริง “มีบางอย่างในบทและหนังเรื่องนี้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริง เข้าถึงอารมณ์ และมีความเป็นธรรมชาติมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจเพราะเรากำลังพูดถึงเรื่องปีศาจ ผี และอีกโลกหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นส่วนที่น่ากลัวที่สุดของหนังเรื่องนี้ การที่ฝันร้ายพวกนี้สมจริงขนาดไหนน่ะค่ะ”

ลิลลี-โรสสวมบทบาทเป็นเอลเลนในห้องออดิชันอย่างแนบเนียน ด้วยความกระตือรือร้นที่จะทำให้บทนี้เป็นของเธอ “การออดิชันของเธอเข้มข้นมาก ผมร้องไห้ ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดงก็ร้องไห้ ช่างถ่ายวิดีโอก็ร้องไห้ ชัดเจนว่าเธอจะมีพลังมากในบทบาทนี้” เอ็กเกอร์สเล่า

สำหรับเจ้าตัว การออดิชันคือโอกาสที่จะปลดปล่อยความยับยั้งชั่งใจและมอบตัวเองให้กับตัวละครอย่างเต็มที่ “บทบาทนี้ต้องใช้การปล่อยวาง ข้ามผ่านร่างกาย และกลายเป็นปีศาจ ที่หลุดพ้นจากโลกใบนี้ และปราศจากความรู้สึกยับยั้งชั่งใจใดๆ ทั้งสิ้น ฉันต้องการแสดงให้เขาเห็นในการออดิชันว่าฉันเต็มใจที่จะทำถึงขั้นนั้นค่ะ” เธอเล่า

ลิลลี-โรสทำงานร่วมกับมารี-กาเบรียล โรตี โค้ชด้านการเคลื่อนไหว ผู้เชี่ยวชาญด้านบูโตะของญี่ปุ่น ในการออกแบบท่าเคลื่อนไหวให้กับช่วงเวลาที่เอลเลนถูกสิงสู่ “เราเริ่มต้นอย่างเรียบง่ายมาก” เธออธิบาย “สำหรับเรื่องแบบนี้ สิ่งสำคัญคือต้องคิดถึงแม้แต่รายละเอียดที่เล็กที่สุด เช่น ตัวละครเดินเข้ามาในห้องอย่างไร พวกเขาเดินข้ามห้องอย่างไร ด้วยความที่เอลเลนมีความเชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่ง และมีบางอย่างเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับตัวเธอ ฉันก็เลยอยากให้สิ่งเหล่านั้นส่งผลไปถึงการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอค่ะ”

“จริงๆ แล้ว การได้เห็นด้วยตัวเองนั้นน่ากลัวมาก ไม่ต้องพูดถึงบนจอเลย” แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน ผู้ร่วมแสดงกล่าวถึงความมุ่งมั่นของลิลลี-โรส “เธอสามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างเต็มที่ และเธอมีจิตใจที่ปราศจากความรู้สึกเขินอายอย่างงดงาม ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีเพียงแค่สัญชาตญาณล้วนๆ ครับ”

นิโคลัส โฮลท์ รับบทเป็นโธมัส นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ผู้จริงจัง ผู้เดินทางไปยังปราสาทของออร์ล็อคเพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับครอบครัวของเขา “เขาเริ่มต้นจากการเป็นตัวละครที่ค่อนข้างไร้เดียงสา ผู้คาดหวังและตั้งความหวังถึงสิ่งที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่เขาเผชิญก็ทำให้เขาได้ค้นพบและสูญเสียความหวังนั้นไป มันเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าทีเดียวสำหรับเขา” โฮลท์อธิบาย

เอ็กเกอร์สพิจารณาบุคลิกที่ใจดีของโฮลท์ในตอนที่เขาคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทโธมัส “นิโคลัสมีอารมณ์ขันที่ยอดเยี่ยมและมีด้านมืดด้วย แต่เขาก็เป็นคนอบอุ่นและมองโลกในแง่ดีจนคุณเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครที่มองไม่เห็นและยอมรับความมืดมนไม่ได้จนกว่าจะสายเกินไป” เอ็กเกอร์สกล่าว “นอกจากนี้ นิคยังเป็นนักแสดงที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ซึ่งยังเต็มใจและสามารถละทิ้งตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ด้วย”

นิโคลัสยังเป็นแฟนตัวยงของการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ดื่มด่ำและน่าหลงใหลของเอ็กเกอร์สมาอย่างยาวนาน “ในความเห็นของผม ไม่มีใครสร้างโลกที่แท้จริงและสร้างบรรยากาศได้เหมือนอย่างที่เขาทำในหนังของเขา” เขากล่าวถึงเอ็กเกอร์ส “โลกที่เขาสร้างขึ้นนั้นเหลือเชื่อมาก”

ความสัมพันธ์ของโธมัสและเอลเลนเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง นิโคลัสอธิบายว่า “มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ แต่ผมคงไม่บอกว่าเป็นความรักที่เร่าร้อนหรอกนะครับ โธมัสห่วงใยเอลเลนมากและรักเธออย่างสุดหัวใจ แต่เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาในช่วงเริ่มต้นขาดความจริงบางอย่างไป”

ระหว่างการเดินทางเพื่อไปพบเคานท์ออร์ล็อค โธมัสได้แวะพักที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในโรมาเนียและเพิกเฉยต่อคำเตือนเกี่ยวกับอันตราย “โธมัสเริ่มสูญเสียการรับรู้ว่าอะไรจริงและอะไรไม่จริง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยแน่ใจเลยว่าเขากำลังฝันอยู่หรือสิ่งที่เขาเห็นเป็นเรื่องจริงกันแน่” 

เมื่อโธมัสมาถึง ออร์ล็อคก็ต่อต้านสัญชาตญาณแวมไพร์ของตัวเองจนกระทั่งโธมัสทำให้ตัวเขาเองบาดเจ็บ “มันปลดปล่อยความกระหายเลือดของออร์ล็อคออกมาและทำให้ประสาทสัมผัสของเขาตื่นตัว จากนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องคาดเดาไม่ได้ ความหวังใดๆ สำหรับการทำธุรกรรมปกติก็สูญเปล่า”

บิล สการ์สการ์ด ผู้ต้องผ่านการพลิกโฉมหน้าอย่างน่าอัศจรรย์เพื่อรับบท ออร์ล็อค จำได้ว่าเคยดูภาพยนตร์เรื่องNosferatu: A Symphony of Horror เมื่อตอนเป็นเด็กมาแล้ว “พ่อผมชอบดูหนังครับ และเขาก็จะพาผมย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของวงการหนังตั้งแต่ เริ่มแรก และ Nosferatu ก็เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่เราได้ดู”

แม้ว่าสการ์สการ์ดจะคุ้นเคยกับ Nosferatu: A Symphony of Horror เป็นอย่างดี เขาก็พบว่าบทภาพยนตร์ของเอ็กเกอร์สนั้นมีความแปลกใหม่อย่างน่าทึ่ง “พอผมอ่านบทแล้ว ผมก็คิดว่า ‘ไม่มีอะไรเหมือนเรื่องนี้อีกแล้ว’ น่ะครับ” เขาเล่า “ผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในบทหนังที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมา”

ใน Nosferatu วิลเล็ม เดโฟ รับบทเป็นอัลบิน อีเบอร์ฮาร์ท ฟอน ฟรานซ์ ศาสตราจารย์ที่ได้รับการว่าจ้างให้รักษาเอลเลน ซึ่งเฟรดริค ฮาร์ดิ้ง ซึ่งรับบทโดยแอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน จ้างมาในขณะที่โธมัสไม่อยู่ “ผมโชคดีที่วิลเล็มชอบทำงานกับผม และเขาพร้อมสำหรับทุกอย่าง” เอ็กเกอร์สกล่าวถึงเดโฟ ซึ่งรับบทนำทั้งในเรื่อง The Lighthouse และ The Northman “เขามีพลังงานมาก และมีสมาธิมาก วิลเล็มเต็มใจที่จะ ‘ลงมือทำ’ เขาเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและคอยสนับสนุนนักแสดงรุ่นเยาว์ รวมถึงแสดงได้ยอดเยี่ยม เขาเป็นคนฉลาดและสนใจในทุกสิ่งครับ”

นอกจากนี้ เดโฟยังเคยมีประสบการณ์ในแนวนี้มาก่อนแล้ว โดยเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปี 2001 จากบทแม็กซ์ ชเร็คในภาพยนตร์ดรามาเบื้องหลังที่ได้รับการยกย่องเรื่อง Shadow of the Vampire

ฟอน ฟรานซ์มาถึงบ้านของฮาร์ดิ้งในตอนที่ดร. ซีเวอร์ส (ราล์ฟ อิเนสัน) ใช้ทางเลือกที่มีทั้งหมดเพื่อรักษาเอลเลนจนหมด “แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีบุคลิกแปลกๆ เล็กน้อย แต่ซีเวอร์สก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่สามารถวินิจฉัยปัญหาของเอลเลนได้ เมื่อเขาได้พบกับเอลเลน เขาก็ได้รับความไว้วางใจจากเธอในทันที เพราะเขาเห็นเอลเลนในแบบที่คนอื่นไม่เห็น เธอก็เลยเปิดใจกับเขา”

วิลเลมเองก็รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับเอ็กเกอร์สอีกครั้งเป็นครั้งที่สาม “บทภาพยนตร์นั้นสวยงามมาก” เขากล่าว “ผมมองว่ามันเรื่องราวความรัก ผมรู้ว่าบทของผมคือบทที่ร็อบจะเล่นหากเขาเป็นนักแสดงในเรื่องนี้ นั่นเป็นสิ่งที่น่ายินดี เขาชอบหลายๆ อย่างที่ฟอน ฟรานซ์เชี่ยวชาญ ทุกครั้งที่ผมได้ทำงานกับร็อบ ผมก็จะมีความสุขครับ”

แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน ตอบสนองต่อการขาดการควบคุมของตัวละครของเขา “เฟรดริค ฮาร์ดิ้งเป็นตัวละครที่เข้าถึงได้ทันที เขาเป็นคนที่รักครอบครัว เป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อภรรยาและลูกๆ ของเขา เรื่องนี้ค่อยๆ หลุดจากการควบคุมของเขา และเขากำลังพยายามประคองทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง” แอรอนกล่าว เมื่อเผชิญกับความท้าทายที่น่าตกใจ เฟรดริคยังคงดูแลเอลเลนต่อไป แม้ว่าเขาจะรู้ว่าอาการป่วยของเธออาจอยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์ก็ตาม “เขามีแขกมาที่บ้านและมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนของเขา เขาไม่อยากผิดคำพูด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็ควรพอแล้ว” 

Nosferatu เป็นโอกาสอันดีที่แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสันและนิโคลัส โฮลท์ ซึ่งเป็นพื่อนเก่าแก่ได้ร่วมงานกัน “พวกเราทั้งคู่มีความสุขมากเมื่อได้รับโทรศัพท์จากโรเบิร์ต ตัวละครของเรามีอดีตที่คล้ายกัน ซึ่งก็หวังว่ามันจะแสดงออกมาให้เห็นด้วยนะครับ”

เอ็มมา คอร์ริน รับบทเป็นแอนนา ฮาร์ดิ้ง เพื่อนของเอลเลนและคู่สมรสของเฟรดริค “แอนนาและเฟรดริคเป็นตัวตรงข้ามของเอลเลนและโธมัส พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันอย่างมีความสุข มีบ้านที่สมบูรณ์แบบและมีลูกที่สมบูรณ์แบบ ในบริบทของเรื่องราวโดยรวม พวกเขาสมบูรณ์แบบมากจนน่าจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น พวกเขามักจะให้ความรู้สึกระทึกขวัญอยู่เสมอค่ะ”

ลิลลี-โรสมีความผูกพันส่วนตัวกับเอ็มมา และคว้าโอกาสนี้ไว้ในการสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา “ฉันคิดเสมอมาว่าพวกเขามีความสามารถมาก การได้รู้จักพวกเขาและสร้างมิตรภาพที่หวังว่าจะถ่ายทอดออกมาอยู่ในฉากต่างๆ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ค่ะ” เธอกล่าว

“เอ็มมาเป็นคนจริงจังมาก และเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม” แอรอนกล่าว “ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีจริงๆ ที่เฟรดริคขอคำแนะนำจากแอนนา กับเอ็มมา เรามีเคมีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผมหวังว่าจะถ่ายทอดมันออกมาได้”

ราล์ฟ อิเนสัน ผู้ปรากฏตัวใน The Witch และ The Northman รับบทเป็นดร. วิลเฮล์ม ซีเวอร์ส “น่าสนใจที่ฮาร์ดิ้ง ผู้เป็นคนที่ไม่เข้าใจเอลเลนเลย เป็นคนนำซีเวอร์สเข้ามา ทั้งที่ซีเวอร์สเองก็ไม่เข้าใจเธอเลยเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกัน ซีเวอร์สก็เป็นคนที่โทรหาฟอน ฟรานซ์ค่ะ” ลิลลี-โรสกล่าว

ไซมอน แม็คเบอร์นีย์ มารับบทเป็นแฮร์ น็อค นายจ้างของโธมัสที่ตกอยู่ในความบ้าคลั่ง แม้จะมีฉากร่วมกันเพียงไม่กี่ฉาก แต่นิโคลัสก็ประหลาดใจกับการสร้างนิสัยตัวละครของแม็คเบอร์นีย์ “ผมชอบดูเขาทำงาน ไซมอนแสดงการเปลี่ยนแปลงได้งดงามมากตลอดการถ่ายทำ”

“ไซมอนเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เก่งมากๆ” เอ็กเกอร์สกล่าวอย่างกระตือรือร้น “เช่นเดียวกับเดโฟ เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ขันและความดำมืดออกมาได้ ไซมอนสามารถแสดงให้เห็นว่าตัวละครตัวนี้ช่างเลวร้าย บิดเบี้ยว และมืดมนขนาดไหนน่ะครับ”

พบกับทีมนักแสดงที่ทุ่มสุดตัว โลกอันมืดหม่นสุดสมจริง และความสยองขวัญที่มาพร้อมความงดงามและชั้นเชิง ใน Nosferatu 20 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์