ซีรีส์ GOOD BOY (แชมป์ปราบอาชญากร) เรื่องราวของเหล่าอดีตนักกีฬาเจ้าของเหรียญรางวัลซึ่งผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและต่อสู้ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากร เกิดเป็นการรวมตัวเพื่อจัดตั้งทีมเฉพาะกิจซึ่งประกอบด้วย ยุนดงจู (พัคโบกอม), จีฮันนา (คิมโซฮยอน), คิมจองฮยอน (อีซังอี), โกมันซิก (ฮอซองแท) และ ชินแจฮง (แทวอนซอก) โดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ให้ได้กำลังเข้มข้น โดยซีรีส์ได้เดินทางมาถึงตอนที่ 6 แล้ว ความสนุกกำลังเข้มข้นเรื่อยๆ สำหรับใครที่รอตอนถัดไปหรือยังลังเลที่จะรับชม เราขอพาคุณไปดู 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้
1. นักแสดงและทีมงานสุดปัง



2. แอ็กชั่นและคอเมดี้แบบจัดเต็ม
เตรียมพบกับฉากแอ็กชั่นเข้มข้นและคอเมดี้สุดฮาแบบจัดเต็มในซีรีส์เรื่องนี้ นักแสดงแต่ละคนผ่านการฝึกซ้อมเป็นเวลาตั้งแต่ 3 – 8 เดือน เพื่อรับบทเป็นอดีตนักกีฬาที่กลายมาเป็นตำรวจ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและการเตรียมตัวอย่างจริงจัง พัคโบกอมกล่าวว่า “ผมอยากถ่ายทอดตัวละครออกมาให้ดีที่สุด ทุกคนจะมาก่อนเวลาและฝึกซ้อมทุกวัน”
ผู้กำกับชิมนายอนก็ได้แสดงถึงความพยายามอย่างหนักที่ทีมงานใส่ลงไปในฉากแอ็กชั่นรวมถึงการฝึกฝนอย่างหนัก เธอยังเล่าถึงการใส่มุกตลกลงไปในฉากแอ็กชั่นว่า “ฉันคิดว่ากีฬาต่างๆ อย่างมวยปล้ำหรือขว้างจักรสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ได้ เราจึงปรับเปลี่ยนบางอย่างและเลือกที่จะใส่แง่มุมตลกลงไปด้วย” ด้านแทวอนซอกก็ได้แอบแง้มฉากหนึ่งที่เขาขว้างทิชชู่เปียก พร้อมเล่าว่า “ฉากนั้นตลกมากและออกแนวแฟนตาซีนิดๆ หวังว่าทุกคนจะรอติดตามกันนะครับ” การผสมผสานระหว่างแอ็กชั่นและคอเมดี้อย่างลงตัวนี้จะทำให้ผู้ชมสนุกไปกับทุกตอนอย่างแน่นอน
3. ดูง่าย สนุกได้ทุกคน
ซีรีส์แนวสืบสวนมักจะเป็นเรื่องราวที่จริงจังและเข้มข้น แต่สำหรับ GOOD BOY ผสมผสานความจริงจังของการสืบสวนเข้ากับแอ็กชั่น-คอเมดี้ และความอบอุ่นอย่างลงตัว ผู้กำกับชิมนายอนอธิบายว่า “โทนของซีรีส์นี้เข้าถึงง่าย มีทั้งความตลกและดราม่า เป็นซีรีส์ที่ดูสบายๆ เราตั้งใจทำให้คนดูสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสนุกไปกับมัน หวังว่า GOOD BOY จะกลายเป็นความสนุกเล็กๆ ในวันหยุดของทุกคน” ด้านคิมโซฮยอนก็เห็นด้วยกับความรู้สึกนี้ พร้อมกล่าวว่า “พวกเราถ่ายทำกันในช่วงหน้าร้อน ฉันคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยเติมความสดชื่นให้กับหน้าร้อนของผู้ชม หวังว่าทุกคนจะได้คลายเครียดระหว่างดูซีรีส์ของเราค่ะ” เช่นเดียวกับอีซังอีที่กล่าวว่า “หลังเลิกงานและก่อนนอน ผมมักจะหาซีรีส์ดูสักเรื่อง ถ้าดู GOOD BOY ก่อนนอนในช่วงสุดสัปดาห์ ก็จะเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้กินของอร่อยตอนดึกพร้อมดูซีรีส์สนุกๆ” เพราะฉะนั้นอย่าลืมเพิ่ม GOOD BOY ลงในลิสต์ซีรีส์วันหยุดของคุณ
4. ความยุติธรรมที่ทำถึง
หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้คือ ‘ความยุติธรรม’ ที่สะท้อนออกมาในเรื่อง เมื่อได้เห็นกลุ่มตัวเอกผู้ถูกมองข้ามลุกขึ้นมาต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อทวงคืนความยุติธรรม ผู้ชมจะได้รับความรู้สึกที่ทั้งอิ่มเอมและรู้สึกปลดปล่อย ผู้กำกับชิมนายอนเล่าว่า แก่นของเรื่องนี้อยู่ที่อดีตนักกีฬาที่กลายมาเป็นตำรวจและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พัคโบกอมกล่าวว่า “ผมรู้สึกประทับใจกับตัวละครที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ตัวละครทั้ง 5 คนต่อสู้เพื่อสิ่งนั้นและแสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมยังคงมีอยู่ หวังว่าพวกเราจะสามารถเป็นแรงสนับสนุนเล็กๆ ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและทุกคนที่กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในโลกแห่งความจริงได้” ด้านโอจองเซซึ่งรับบทตัวร้ายของเรื่อง ได้เล่าว่า “เสน่ห์ของความเป็น GOOD BOY มันตราตรึงมาก ตัวละครบางตัวมีเรื่องราวที่น่าเศร้า จนทำให้คุณอยากเอาใจช่วยพวกเขา”
5. มากกว่าแอ็คชั่น-คอเมดี้ แต่ยังได้แง่คิดและแรงบันดาลใจ
GOOD BOY เป็นซีรีส์ที่มีเรื่องราวหลายแง่มุม ไม่เพียงแค่มีแอ็กชั่นและคอเมดี้ แต่ยังมีสิ่งที่จะสื่อให้ผู้ชมได้ฉุกคิดและได้รับแรงบันดาลใจ โอจองเซกล่าวว่า “GOOD BOY นั้นสนุกและดูง่าย แต่ผู้กำกับก็ใส่หลายอย่างไว้ให้คนดูได้คิดและไตร่ตรอง” ด้านฮอซองแทเล่าว่า “ผมรู้สึกแปลกใจที่ตัวเองมีน้ำตาคลอขณะอ่านบทฉากแอ็กชั่น” พัคโบกอมกล่าวว่า “การเริ่มต้นความท้าทายใหม่ๆ อาจกลายเป็นแรงผลักดันในชีวิตของใครบางคน ผมเองก็มีการเริ่มต้นใหม่ผ่านซีรีส์เรื่องนี้ หากคุณกำลังเจอกับความยากลำบากในการเริ่มต้นใหม่ หวังว่า GOOD BOY จะเป็นพื้นที่ที่ปลอบใจคุณได้ และผมคิดว่า GOOD BOY จะเป็นซีรีส์ที่มอบแนวทางที่ดีแก่ผู้ชม”
บอกได้เลยว่าห้ามพลาดกับซีรีส์สุดมันที่อัดแน่นไปด้วยคอเมดี้ แอ็กชั่น สืบสวน และความโรแมนติก โดยสามารถรับชม GOOD BOY ได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ บน Prime Video เท่านั้น