NCT DREAM สร้างฝันแห่งอนาคตกลางราชมังฯ ร่วมกับผู้ชมกว่า 66,000 คน ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ 2025 NCT DREAM TOUR <THE DREAM SHOW 4 : DREAM THE FUTURE> in BANGKOK ที่จัดกันถึง 2 รอบการแสดง ในวันเสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2025 พร้อมจารึกสถิติใหม่ได้อีกครั้ง ในฐานะศิลปินกลุ่มแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT ที่จัดคอนเสิร์ต ณ ราชมังคลากีฬาสถาน สเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 รวมถึงเป็นศิลปินกลุ่มแรกของค่ายที่จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตในประเทศไทยได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ น้องดรีมเยี่ยมจริงๆ
คอนเสิร์ตครั้งนี้ NCT DREAM มากับคอนเซปต์ ‘การเดินทางข้ามกาลเวลา’ จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ‘Go Back To The Future’ ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบสามมิติสุดอลังการ เล่าเรื่องราวตั้งแต่การย้อนกลับไปในอดีต สู่ปัจจุบันอันรุ่งโรจน์ และทะยานสู่อนาคตในมิติใหม่เหนือจินตนาการ พร้อมโปรดักชันสุดตระการตา ทั้งจอ LED สูง 13 เมตร ดีไซน์พิเศษทรงแว่นครอบตา และจอเสริมด้านข้างสูง 7 เมตร รวมความกว้างทุกจอกว่า 122 เมตร เรียกว่านั่งตรงไหนก็มองเห็น โครงสร้างกำแพงปราสาทและกรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ รถเลื่อนอัตโนมัติ เครื่องพ่นไฟ เครื่องยิงเลเซอร์ กระดาษโปรยสั่งทำพิเศษ ไปจนถึงลิฟต์เอียงต่างระดับ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในทัวร์ครั้งนี้ที่มีแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับคอนเสิร์ตในเกาหลี เอาสิ้!
นับถอยหลังสู่การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ด้วยความลุ้นระทึกพร้อมเสียงเชียร์ดังกระหึ่มทะลุสนามทันทีที่ NCT DREAM ปรากฏตัวท่ามกลางเลเซอร์และไพโรเทคนิคสุดตื่นตาตื่นใจ ถอดรหัสข้ามเวลาด้วยเพลงเปิดตัว BTTF, 무대로 (Déjà Vu;舞代路), Ridin’, ISTJ และ BOOM ระเบิดพลังแห่งตัวตนอันเปล่งประกายที่สุด ณ ปัจจุบันบนเวที
การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป เมื่อวงแหวนข้ามมิติได้เปิดออกอีกครั้ง เพื่อพาย้อนอดีตกลับไปยังดินแดนแห่งความฝันในคอนเสิร์ตครั้งก่อนหน้า ไล่เรียงไปจนถึงจุดเริ่มต้นของ THE DREAM SHOW หวนคืนความทรงจำแห่งวัยเยาว์อันแสนหวาน ด้วยบทเพลงสดใส มีชีวิตชีวา We Young, 덩크슛 (Dunk Shot) และ Candy ปลุกความคิดถึงในใจแฟนๆ พร้อมโอบกอดช่วงเวลาแห่งความฝันที่เติบโตเคียงข้างกันมาอย่างงดงาม
NCT DREAM ยังโชว์ให้เห็นศักยภาพในฐานะ Performance King ผ่านเวทีที่ถ่ายทอดเสน่ห์อันหลากหลาย รวบรวมช่วงเวลาสำคัญตลอดเส้นทางไว้อย่างครบถ้วน ทวีดีกรีความร้อนแรงด้วยโชว์สุดแข็งแกร่งในเพลง STRONGER และ Best of Me รวมถึเพลงฮิตต่างๆ ที่ถูกเรียบเรียงใหม่ เพิ่มสีสันด้วยแด๊นซ์เบรกสุดเท่และท่าเต้นกลุ่มอันพร้อมเพรียงอย่าง 맛 (Hot Sauce), Diggity, 1, 2, 3 ต่อเนื่องด้วยเพลงโปรดของแฟนๆ อย่าง Hello Future และ Broken Melodies ไล่เรียงไปถึงเพลงบัลลาด 별 밤 (On the way) และ YOU (숲) ด้วยเสียงประสานสุดเพราะ
สเกลราชมังฯ ทั้งที แน่นอนว่าต้องมีไฮไลต์เป็นรถเลื่อนอัตโนมัติที่พา NCT DREAM แล่นไปรอบสเตเดี้ยมช่วงเพลง Off The Wall, Rocket และ ANLท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและแรงใจจาก NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ซึ่งเตรียมแฟนโปรเจกต์แสนซาบซึ้งไว้ให้ ทั้งการแปรอักษรจากกล่องไฟเป็นคำว่า ‘9YEARS 7DREAM ‘พี่ NCTzen 🤍 น้อง DREAM’, แบนเนอร์ ‘พวกเราจะเป็นท้องฟ้าสีฟ้า เพื่อให้ 7DREAM ได้เป็นสายรุ้งทั้ง 7 สี ที่เปล่งประกายอย่างเจิดจรัสบนท้องฟ้าเองนะ’ ‘ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ทำให้วัยเยาว์ของพวกเราสมบูรณ์’ ‘To the Future ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่เป็นคำสัญญาจากหัวใจ’ และป้ายข้อความ ‘ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ก็จะเดินไปกับ 7DREAM’ ‘Dear DREAM, I’ll be your home.’ สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และคำมั่นสัญญาที่เชื่อมโยงหัวใจเข้าด้วยกัน เติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขในค่ำคืนนี้
ตลอดการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง 26 บทเพลง ยิ่งยืนยันถึงทุกช่วงเวลาอันมีความหมายที่ NCT DREAM กับผู้ร่วมเดินทางคนสำคัญอย่าง NCTzen ได้พบเจอเคียงข้างกันมา ตั้งแต่อดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของความฝัน จนกลายมาเป็นความจริงสุดยิ่งใหญ่ ณ ปัจจุบัน ก่อนจะมุ่งหน้าต่อเพื่อร่วมสร้าง ‘ฝันแห่งอนาคต’ ที่สมบูรณ์แบบร่วมกัน