DOYOUNG สลักความประทับใจ ณ ประตูแห่งความทรงจำ ในคอนเสิร์ตเดี่ยว 2025 DOYOUNG CONCERT [ Doors ] in BANGKOK

โดยอง วง NCT สลักความประทับใจ ณ ประตูแห่งความทรงจำ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งที่สอง 2025 DOYOUNG CONCERT [ Doors ] in BANGKOK เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2025 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2025 เวลา 17:00 น. ณ ธันเดอร์โดม ตอกย้ำถึงพลังความนิยมสุดแข็งแกร่งกับการบัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทั้ง 2 รอบ รวมแล้วมีพี่สาวเส้นมาร่วมสร้างควาทรงจำกับโดยองถึงเกือบหมื่นคน

คอนเส็ปต์หลักของคอนเสิร์ตนี้คือ Doors สื่อถึงการตามหาความทรงจำและอารมณ์ต่างๆ ที่ได้พบเจอ เมื่อประตูแห่งความทรงจำถูกเปิดออก องค์ประกอบทุกอย่างตั้งแต่เซ็ตลิสต์ วีซีอาร์ และการกำกับเวทีจึงถูกออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับคีย์เวิร์ด ‘ประตู’ และแน่นอนว่าคอนเสิร์ตเดี่ยวของเมนโวคอลทั้งที ย่อมจะต้องมาพร้อมวงดนตรีสด อีกทั้งการร้อยเรียงเพลงทั้งจากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก 청춘의 포말 (YOUTH) ที่พูดถึงความรู้สึกของวัยรุ่น และอัลบั้มเดี่ยวชุดสอง Soar ที่ว่าด้วยการจุดประกายความกล้าฝัน ก็หลอมรวมกันกลายเป็นเวทีที่โดยองสามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

เมื่อไฟดับลงและแสงเลเซอร์ยิงเป็นรูปบานประตูที่เปิดขึ้น โดยองก็ปรากฏตัพร้อมพลังเสียงที่ปลุกทุกคนจากความมืดด้วยเพลงแนวร็อค 깊은 잠 (Wake From The Dark) ก่อนจะตามด้วยการโชว์เสียงอันหนักแน่นในเพลงอย่าง 댈러스 러브 필드 (Dallas Love Field), 나의 바다에게 (From Little Wave), 반딧불 (Little Light) และ Lost In California แล้วเปลี่ยนฟีลพาเหล่าเอนซิทิเซ่นดื่มด่ำไปกับเสียงร้องเพราะๆ คลอเสียงเปียโนหวานๆ ในเซ็ตเพลงบัลลาด เริ่มด้วย Sand Box เพลงที่เพราะมากๆ และยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของคอน ตามด้วย 온기 (Warmth), 끝에서 다시 (Rewind) และ 편한 사람 (Just Friends) ที่ผสานเสียงละมุนกับกีตาร์อะคูสติก ไปจนถึงเพลงฮิตเพลงโปรดของหลายคนอย่าง 안녕, 우주 (Memory), Time Machine, 자전거 (First Step) และ 쏟아져오는 바람처럼 눈부시게 너란 빛이 비추더라 (Be My Light)

แล้วก็ถึงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยกับ ‘บาร์แจ๊สของ DOYOUNG’ ที่ยกวงดนตรีแจ๊สมาบรรเลงแบบสดๆ ถ่ายทอดเพลงที่เรียบเรียงใหม่ในแบบฉบับของโดยอง เป็นอีกช่วงที่ได้ตื่นตาตื่นใจในน้ำเสียงและการเพอร์ฟอร์มที่ต้องใช้คำว่า ‘น่าหลงใหล’ ดื่มด่ำไปกับเพลงอย่าง YESTODAY ของ NCT U, เพลงเดี่ยวของโดยอง 내가 됐으면 해 (Serenade), เพลงประกอบละคร Like a Star, เพลง 우산 (Love Song) ของ NCT 127 และเพลง Perfume ของ NCT DOJAEJUNG ที่โดยองโชว์ทักษะเปียโนช่วงท้ายให้ได้กรี๊ดกันด้วย

จากนั้นกรี๊ดกันยาวๆ ไปเลยกับเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ เพราะโดยองเตรียมเพลงภาษาไทยสะท้อนความรู้สึก ‘รักนานๆ’ มาร้องให้ฟังท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความหมาย บอกเลยว่าเสียงละมุนนุ่มนวลชวนฝันไม่พอ น้องยังร้องชัดเว่อร์ โวคอลค่าย SM นี่เรื่องร้องเพลงไทยคือยอมจริงๆ แต่ละคนร้องชัดจ๊นนนนเหมือนโตที่ไทย และเมื่อศิลปินเขาให้ใจเรามาขนาดนี้ ฝั่งแฟนคลับเอ็นซีทีเซ่นก็ปาหัวใจกลับในรูปของโปรเจกต์ที่สวยก็มี น่ารักก็มา ทั้งการแปรกล่องไฟรูป ‘행운 (ความโชคดี) 🍀 กระต่าย’ ที่สื่อถึงโดยอง และ ‘DO 🩵 US’, ที่คาดผมรูปกระต่ายและใบโคลเวอร์ รวมถึงป้ายเชียร์ ‘หากใบโคลเวอร์คือสัญลักษณ์แห่งความโชคดี DOYOUNG (โดยอง) ก็เปรียบเหมือนสัญลักษณ์แห่งความโชคดีของพวกเรา’ และ ‘ประตูแห่งความทรงจำที่ล้ำค่า คือ คำสัญญาว่าเราจะกลับมาพบกันใหม่’ ทำเอาโดยองยิ้มแป้นพร้อมชมว่าน่ารักไม่หยุด

ช่วงอังกอร์มากับคอนเส็ปต์ที่ร้อยเรียงมาเป็นอย่างดีเช่นกัน นั่นคือเริ่มด้วยเพลงแรกที่โดยองแต่งเอง 새봄의 노래 (Beginning) สู่คำมั่นสัญญาว่าจะพบกันอีกในอนาคต 미래에서 기다릴게 (Eternity) จบลงด้วยเพลงที่เป็นเสมือนที่พักพิงใจ 쉼표 (Rest) แล้วจบลงด้วยการเดินกลับเข้าไปหลังประตูที่ปิดลง เป็นสัญญาณว่าคอนเสิร์ตอันน่าประทับใจนี้ได้จบลงแล้ว

กว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง กับ 25 เพลงพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘บานประตู’ ที่อัดแน่นไปด้วยเสียงดนตรีและเรื่องราวอันจริงใจจากโดยองได้ถูกเปิดออก เพื่อพาแฟนๆ ร่วมโบยบินสู่ความทรงจำอันมีค่า ที่ไม่ว่าจะเปิดบานไหนและเมื่อใดก็เต็มไปด้วยความสุขที่โดยองกับเอ็นซีทีเซ็นร่วมกันสร้างขึ้นมา เช่นเดียวกับช่วงเวลานี้ที่จะถูกสลักไว้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันไม่มีวันลืมเลือน